การเติบโตของโลกโซเชียลอาจทำให้การลุกขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองในวันนี้ไม่ใช่เรื่องยาก การันตีได้จากภาพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยืนต่อคิวแน่นเอียดในไปรษณีย์ เพื่อรอส่งสินค้ากองมหึมา ทว่าปรากฏการณ์นี้ก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ไปได้ไม่ไกลจากจุดเริ่มต้นมากนัก และยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยแก่ผู้ประกอบการรายย่อย นั่นคือ ธุรกิจรับบริหารจัดการคลังสินค้า ซึ่งมีบริการครอบคลุมตั้งแต่ คลังสำหรับจัดเก็บสินค้า การแพ็คสินค้าตามคำสั่งซื้อ และการจัดส่งสินค้าไปยังบริษัทขนส่ง
SCB SME ได้เชิญ คุณเบญจพร ชัยบุรี ผู้ก่อตั้งธุรกิจบริหารจัดการคลังสินค้าแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ภายใต้ชื่อแบรนด์ Sokochan ร่วมกับ คุณเอเดรียน สจ๊วต มาแชร์ประสบการณ์การจัดการคลังสินค้าในธุรกิจของเธอ โดยเล่าว่าก่อนหน้านี้ตัวเธอเองก็เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าเด็กทางออนไลน์ และประสบปัญหาเรื่องการจัดเก็บสต๊อก และแพ็คของส่งไม่ทันเช่นกัน จากปัญหานี้ทำให้เธอเกิดไอเดียที่คิดจะทำธุรกิจให้บริการบริหารจัดการคลังสินค้าแก่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยมองว่าอนาคตธุรกิจนี้จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
HIGHLIGHT
– ระบบการจัดการคลังสินค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการมีเวลาไปเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตัวเอง และยังทำให้การจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับมีต้นทุนถูกลง ขณะที่การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– การบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือเรื่องของระบบไอที ที่จะทำให้สามารถบริหารจัดการคลัง และการจัดส่งสินค้าได้บนหน้าจอเดียวกัน และสามารถตรวจสอบทุกสถานะได้ในระบบเรียลไทม์ และยังมีโอกาสผิดพลาดน้อยมาก
– สินค้าทุกชิ้น หรือแม้แต่กล่องและซองพัสดุ ต้องมีการแปะบาร์โค้ดเพื่อนำเข้าระบบ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้าที่จัดส่ง รูปแบบการจัดส่งที่ใช้บริการ และจำนวนสินค้าคงคลัง
“เมื่อ 3 ปีก่อน อีคอมเมิร์ซยังไม่บูมขนาดนี้ แต่เรามองแล้วว่าจะต้องมาแน่ ซึ่งตอนนั้นธุรกิจที่เรียกว่า fulfillment ยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในต่างประเทศ อย่างในอเมริกามีแล้ว และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่จนต้องมีคลังสินค้าขนาดใหญ่รองรับ และใช้หุ่นยนต์ช่วยในการทำงาน เราเลยมองเห็นว่าเป็นโอกาส โดยเริ่มแรกเลยเราเช่าคลังสินค้าขนาด 100 ตรม. เพื่อทดลองดูก่อนว่าธุรกิจนี้จะไปได้หรือเปล่า ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก แค่ 6 เดือนแรก มีลูกค้าใช้บริการ 10 รายแต่ของเต็มโกดังแล้ว เราต้องย้ายโกดังใหม่ ปัจจุบันเรามีโกดังอยู่ที่บางพลี ขนาด 700 ตรม. ให้บริการรองรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ถึง 250 ร้านค้า”
เบญจพรบอกว่า Sokochan คือผู้ช่วยของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มีเวลาไปเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตัวเอง แต่ยังทำให้การจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับมีต้นทุนถูกลง ขณะที่การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเธอเลือกให้ Sokochan มีคาแรคเตอร์เป็นผู้หญิง ที่มีความละเอียดรอบคอบ และทำงานประสานกับบริษัทขนส่งที่ส่วนใหญ่มีคาแรคเตอร์เป็นผู้ชายได้ดี
“การแพ็คสินค้าจัดส่งเองมีต้นทุนแฝงเยอะที่บางครั้ง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อาจมองข้ามไป เรามีบริการเก็บของ แพ็คของ และจัดส่งให้ โดยทีมงานที่ทำหน้าที่แพ็คของโดยเฉพาะ ผู้ขายแค่ส่งออเดอร์มาให้เรา แล้วเราจะไปหยิบของมาแพ็คจัดส่งให้ลูกค้าของเขาเอง ในโกดังจะแยกออร์เดอร์ของแต่ละเจ้าไว้เป็นสัดส่วน 1 ตะกร้า คือ 1 ออร์เดอร์ แพ็คของเสร็จจะทำการจัดแยกเพื่อขนสินค้าไปยังบริษัทขนส่งที่ลูกค้าระบุไว้ทันที ซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ไทย และเคอรี่จะมารับถึงที่ และมีเคาน์เตอร์อยู่ที่โกดังของเรา มาถึงก็แค่ยิงบาร์โค้ดข้อมูลสินค้า และการจัดส่ง ก็จะเข้าระบบของบริษัทขนส่ง 2 แห่งนี้เลยทันที สินค้าจึงส่งถึงมือผู้รับเร็วมาก บางครั้งอาจถึงมือผู้รับในวันเดียวกัน ซึ่งปกติเราจะตัดรอบในช่วงบ่ายโมงของวันจันทร์ถึงศุกร์ วันถัดไปลูกค้าก็จะได้รับสินค้าแล้ว ส่วนคนที่ได้รับสินค้าในวันเดียวกันจะตัดรอบ 6 โมงเช้า”
“ส่วนค่าบริการเราจะมีคิดค่าวางสินค้า และค่าหยิบ ชิ้นแรกราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของสินค้า แต่ชิ้นต่อไป 3 บาท ส่วนค่าแพ็คจะคิดตามขนาดของแพ็คเก็จ ทำให้ลูกค้าจ่ายตามที่ใช้ ขายน้อยก็จ่ายน้อย ขายมากก็จ่ายมาก แต่มีกำหนดออร์เดอร์ขั้นต่ำจะต้อง 30 ออร์เดอร์ต่อเดือนเป็นอย่างน้อย เรารับประกันความเสียหายให้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อชิ้น กรณีที่ความเสียหายนั้นเกิดขึ้นขณะอยู่ในความรับผิดชอบของเรา แต่หากอยู่ในมือบริษัทขนส่ง เราจะทำการประสานงานให้ ซึ่งบริษัทขนส่งทุกรายก็จะมีค่าประกันความเสียหายตามเรตของตัวเอง”
เบญจพรบอกว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่มาใช้บริการจะมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะมีเวลาในหาสินค้าใหม่ๆ มาขาย และมีเวลาขายได้มากขึ้น ความสำเร็จของลูกค้าที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำให้เกิดการบอกต่อจนทำให้ Sokochan เติบโตอย่างต่อเนื่องตาม โดยปีที่แล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากปีก่อน
เอเดรียน สจ๊วตหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Sokochan บอกว่าในการทำบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือเรื่องของระบบไอที ซึ่งเขา และเบญจพรลงทุนจ้างโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่ และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นจุดเด่นที่ทำให้การบริการของ Sokochan แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น
“เรามีระบบจัดการสต๊อก และจัดการออเดอร์ให้ใช้ฟรี แค่มีอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ไหนก็ใช้ได้แล้ว ผู้ใช้บริการสามารถจัดส่งออร์เดอร์ ติดตามสถานการณ์จัดส่ง และดูรายงานการจัดส่งทางออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา จากทุกอุปกรณ์ เพราะเรามีระบบ API เชื่อมต่อระบบหลังบ้านเข้ากับระบบขนส่งด้วย และช่องทางการขายทุกช่องทาง ทำให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการคลัง และการจัดส่งสินค้าได้บนหน้าจอเดียวกัน และสามารถตรวจสอบทุกสถานะได้ในระบบเรียลไทม์ เป็นระบบที่ที่ที่อื่นไม่มี ไม่ว่าลูกค้าจะขายสินค้าช่องทางไหน หรือจะขายสักกี่ช่องทาง ก็เชื่อมต่อกับเราได้ ที่สำคัญเวลามีปัญหาพ่อค้าแม่ค้าสามารถคุยกับเราผ่านทางไลน์ได้ด้วย”
“ซึ่งการจัดส่งด้วยตัวเอง โอกาสผิดพลาดมีสูง แต่การจัดส่งโดยระบบไอทีข้อผิดพลาดจะน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการข้ามขั้นตอนของพนักงาน แต่สำหรับที่ Sokochan ข้อผิดพลาดน้อยมาก เพราะเราทำงานผ่านระบบที่มีประสิทธิภาพสูง สินค้าทุกชิ้นต้องติดบาร์โค้ดสินค้าเพื่อป้องกันความผิดพลาด เราให้ลูกค้าสามารถติดตามการจัดส่งได้ตั้งแต่ออร์เดอร์มาถึงเรากี่โมง จนไปถึงมือผู้รับกี่โมง ที่ต้องให้สามารถตรวจสอบสินค้าได้ทุกขั้นตอน ก็เพราะเราเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถยกเลิกออร์เดอร์ได้ตลอดเวลา การแทร๊กได้ทุกขั้นตอนทำให้การยกเลิกสามารถทำได้ไม่ว่าสินค้าตอนนั้นไปอยู่ในมือของใคร เช่น หากอยู่ในมือของไปรษณีย์แล้ว เราสามารถแจ้งทางไปรษณีย์ให้ดึงสินค้าชิ้นนั้นกลับมาได้”
เอเดรียนบอกว่าปัจจุบัน Sokochan มีพนักงานทั้งหมด 12 คน แต่ด้วยประสิทธิภาพของระบบไอทีของ Sokochan ทำให้สามารถทำงานรองรับออร์เดอร์ที่มีเข้ามาเกิน 1,000 ชิ้นต่อวัน ดูแลสินค้า 8 ล้านชิ้นภายในคลังสินค้าได้อย่างสบาย และด้วยประสิทธิภาพของระบบไอทีนี้เองยังทำให้ Sokochan มีโอกาสได้ต่อยอดธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
“บริการใหม่ของเราคือการรับวางระบบสต๊อกสินค้าให้โกดัง จุดเริ่มต้นมาจากมีผู้ค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ค้าอันดับ 1 ในกลุ่มสินค้าแฟชั่นของลาซาด้า เข้ามาปรึกษาเราเพื่อขอใช้บริการ แต่เนื่องจากสินค้าของเขาเยอะมากร่วม 1-2 แสนชิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเช่าตึกแถวสำหรับเก็บสินค้า และจ้างชาวพม่ามาคอยเฝ้าของให้ โดยที่ไม่มีการนับสต๊อกสินค้าด้วย ความที่สินค้าเขาเยอะเกินเราก็เลยแนะนำไปว่าให้เราไปช่วยวางระบบให้ดีกว่า โดยเราจะมีค่าใช้จ่ายในการเซตระบบที่จ่ายเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นจะคิดเป็นรายชิ้น ซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการสต๊อก และการจัดส่งสินค้าของเขาถูกกว่าที่จะมาใช้บริการของเราอีก”
เอเดียนกล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันคนซื้อของออนไลน์ในไทยมีประมาณ 3-4% เมื่อเทียบกับตลาดค้าปลีกทั้งหมด ขณะที่จีนมีมากถึง 15% ทำให้โอกาสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ไม่ควรประมาท เพราะคู่แข่งจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว อีกทั้งสินค้าจากต่างประเทศใช้เวลาในการจัดส่งถึงมือผู้รับได้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลากว่า 10 วัน ปัจจุบันเพียงแค่ 6 วันก็สามารถส่งถึงมือผู้รับได้แล้ว และจัดส่งสินค้าให้ได้แม้สินค้านั้นจะมีราคาไม่สูง สิ่งสำคัญที่จะทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เติบโตต่อไปได้ไม่สะดุดจึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ดีกว่าคู่แข่งเหล่านี้
ผู้สนใจสามารถติดตามกิจกรรมดี ๆ จาก SCB SME ที่มีให้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางที่นี่