#Sokochan เชื่อว่าทุกคนที่ทำธุรกิจผ่านเฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะเปิดเพจหรือทำอะไรก็ตาม ก็ต้องเคยซื้อโฆษณาของเฟซบุ๊กด้วยตัวเองทั้งนั้นค่ะ ซึ่งมันจะมีศัพท์เฉพาะในวงการโฆษณาออนไลน์ที่ควรรู้เพื่อให้เข้าใจผลหรือประสิทธิภาพของการซื้อโฆษณาได้ดีที่สุดนะคะ

1.Reach

ศัพท์พื้นฐานที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจไม่เคลียร์เท่าไหร่ คำว่า Reach แปลเป็นไทยว่า “ไปถึง” ค่ะ เพราะฉะนั้นค่า Reach ก็หมายความว่าจำนวนของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เห็นโพสต์นั้นมีกี่คน ซึ่งยิ่งเยอะก็ยิ่งดี ซึ่งโดยปกติเฟซบุ๊กจะปล่อย Organic Reach ให้อยู่แล้ว คือโพสต์ไปแล้วจะเข้าถึงคนโดยที่ไม่จ่ายเงินเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเป็นโพสต์ที่คนสนใจ มีการกดอ่าน กดดู หรือแสดงความเห็นเยอะ เฟซบุ๊กก็จะปล่อยรีชเพิ่มให้คนอื่นๆ เห็นอีกค่ะ แต่ถ้า Reach น้อย อันนี้ก็ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม ให้คนเห็นเพิ่มแล้ว

2. Impression 

คำนี้ใกล้เคียงกับ Reach มากๆ แต่ไม่เหมือนกันนะคะ อย่าสับสน Impression แปลเป็นไทยว่า “รอยประทับ” เพราะฉะนั้นจะเป็นตัวเลขที่แสดงว่าโพสต์เนื้อหานั้นๆ ถูกแสดงไปกี่ครั้ง ซึ่งการดู Impression เราจะดูคู่กับ Reach นะคะ เช่นโพสต์หนึ่งแสดงตัวเลขว่า 5 Reach และ 8 Impression ก็หมายถึง โพสต์นี้เข้าถึงคน 5 คน แต่ใน 5 คนนี้แสดงผลไป 8 ครั้ง อาจจะมี 3 คนที่เห็นโพสต์นี้ 2 ครั้งก็ได้ ประโยชน์ของ Impression คือดูการย้ำของเนื้อหาค่ะ บางครั้งเราคิดว่าถ้าคนเห็นโพสต์ของเราครั้งเดียว น่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่กดอ่าน ไม่กดดูรายละเอียด ไม่กดซื้อ เราก็จัดการซื้อโฆษณาให้เจาะ Impression เพิ่ม ยิ่ง Ad ซ้ำเดิมกับคนเดิมๆ สัก 2-3 ครั้งเพื่อกระตุ้นความสนใจ  แต่ถ้า Impression สูงกว่า reach มากๆ ก็อาจทำให้ผู้รับโฆษณารู้สึกรำคาญและบล็อกโฆษณาของเราได้นะคะ

ปล. เลข Impression จะแสดงเมื่อเราซื้อโฆษณาค่ะ ถ้าโพสต์เฉยๆ ไม่ได้ซื้อโฆษณา ก็จะเห็นแต่เลข Reach อย่างเดียว

 

3. Engagement

คำนี้เราก็ได้ยินบ่อยนะคะ Engagement แปลเป็นไทยว่า “การพัวพัน” โพสต์ที่มีเลข Engagement ดี ก็หมายถึงมีคนสนใจโพสต์เยอะ มีส่วนร่วมเยอะ เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ด้วยมาก

ซึ่งปกติเลข Engagement ของเฟซบุ๊กจะรวมเอายอด Like, ยอด Comment และยอดแชร์มารวมกัน เพราะถือว่าทุกกิจกรรมคือการมีส่วนร่วมทั้งหมดนะคะ แต่ก็จะมีรายละเอียดแยกย่อยให้ดูว่ามีกิจกรรมอะไรเท่าไหร่บ้าง

CTR – Click Through Rate 

CTR คืออัตราการคลิกผ่านเข้าไปค่ะ เช่น เราลงลิงก์ไว้ในเฟซบุ๊ก มีคนที่เห็นโพสต์ของเราและคลิกเข้าไปเท่าไหร่ หรืออัตราการกดเข้าไปอ่านเนื้อหาต่างๆ แต่ CTR จะแสดงแค่ข้อมูลว่ามีคนคลิกเท่าไหร่นะคะ ถ้าอยากได้ข้อมูลลึกกว่านี้ เช่นคนกดเข้าไปแล้ว กดซื้อกี่คน ก็ต้องใช้ตัวช่วยอื่นๆ เช่น facebook pixel เพิ่ม

5.ThruPlay

อันนี้เป็นศัพท์เฉพาะของเฟซบุ๊กเลยนะคะ สำหรับการซื้อโฆษณาแบบวิดีโอโดยเฉพาะ คือถ้าซื้อแบบ ThruPlay เฟซบุ๊กจะหักเงินค่าโฆษณาจากเราเมื่อคลิปเราเล่นถึง 15 วินาทีค่ะ ถ้าคลิปสั้นโฆษณาเราสั้นกว่า 15 วินาที คนดูก็ต้องดูจบคลิปถึงจะได้เงินโฆษณาจากเราไป ก็เป็นรูปแบบการซื้อโฆษณาวิดีโอที่เน้นประสิทธิภาพ เน้นให้คนดูคลิปจริงๆ ไม่ใช่ดูแค่ไม่กี่วิก็ได้เงินโฆษณาจากเราไปแล้ว ซึ่งลองเลือกใช้ได้จากหน้าซื้อโฆษณานะคะ