ในกรณีที่มีออเดอร์ล้น แสดงว่า ธุรกิจของคุณกำลังเติบโตไปได้ดี  และสิ่งนั้นจะนำมาซึ่งรายได้ของคุณที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณขายดีผมเดาต่อได้เลยว่า ตอนนี้คุณกำลังมีแผนจะสร้างยอดขาย เพิ่มขึ้นอีกโดยการลงทุนไปกับ งบการตลาด งบโฆษณา ต่าง ๆ  ซึ่งการทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผมอยากจะให้คุณลองหยุดคิดดูก่อน แล้วตั้งคำถามว่าตัวเองว่า ถ้ามียอดขายที่มากกว่านี้ระบบหลังบ้านของคุณ สามารถแพ็คส่งให้ทันเวลาที่ลูกค้ากำหนดหรือไม่ สต็อกของคุณพอขายหรือไม่ หากคิดว่าคุณสามารถทำได้ ให้ถามตังเองอีกครั้ง ว่าทำได้แล้วคุณภาพยังเหมือนเดิมไหม ?  มีแพ็คผิดเพิ่มขึ้นบ้างไหม ? มีการส่งช้ากว่าเดิมไหม ? ปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ดังนั้นก่อนที่จะ Scale งบการตลาด ควรจะ Scale กระบวนการทำงานหลังบ้านเสียก่อน ลองเอาตัวเองออกมาจากการแพ็คของเอง การทำสต็อกเอง สร้างระบบหลังบ้านให้ทำงานให้คุณได้ด้วยตัวเอง แล้วค่อยเอาเวลาของคุณไปโฟกัสเรื่องการขายดีอย่างเต็มที่

ควรเตรียมระบบหลังบ้านอย่างไร ให้แพ็ค-ส่งได้ทันเวลา

1.เตรียมสต็อกสินค้าให้พร้อมอยู่เสมอ

เมื่อมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก คุณต้องวางแผนการบริหารสต็อกไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ควรสร้างระบบที่ทำให้คุณสามารถตรวจสอบสินค้าได้อย่างเรียลไทม์ รู้สต็อกเข้า-ออกทุกวัน สินค้ารายการไหนที่ขายดี ให้ กักตุนเอาไว้ ถ้าซื้อสินค้าไหนมาก่อน ก็ต้องขายสินค้านั้นไปก่อน สินค้าต้องจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความรวดเร็วในการหยิบ และสุดท้ายคุณต้องความสัมพันธิ์ที่ดีกับ ซัพพลายเออร์ เพราะซัพพลายเออร์จะยินดีทำงานให้กับคุณ ผลิตสินค้าให้คุณอย่างรวดเร็ว และยินดีช่วยคุณหากมีปัญหาหรือเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น

2.เตรียมพนักงานแพ็คสินค้าให้พร้อม

เมื่อยอดขายของคุณเติบโตขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมเสมอคือ คนแพ็คสินค้า ซึ่งต้องมีให้เพียงพอ ต่อปริมาณของออเดอร์ในแต่ละวัน ในช่วงโปรโมชั่นหากจำนวนออเดอร์ เข้ามา มากเกินศักยภาพของคุณจริง ๆ อาจจะใช้วิธีรับสมัครพนักงาน พาร์ทไทม์ เข้ามาช่วยงานบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม คนแพ็คสินค้า ควรจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ ในการทำงาน สามารถแพ็คสินค้าให้คุณอย่างดี  ปราณีต สวยงาม โดยสิ่งนี้ จะทำให้คุณสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

3.นำระบบจัดการออเดอร์เข้ามาช่วยทำงาน

ผู้ขายในปัจจุบัน มีการขายในหลายช่องทาง เมื่อมีออเดอร์จำนวนมากเข้ามาในหลายช่องทาง ปัญหาที่ตามมาคือ มีสินค้าตกหล่น สต็อกไม่พอขาย สต็อกมั่ว ส่งสินค้าผิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ควรมีระบบจัดการออเดอร์ Order Management System : ระบบจะเข้ามาช่วยบริหารจัดการออเดอร์จากร้านค้าของคุณ ในทุกช่องทาง สามารถรับคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางผ่านระบบเดียว และติดตามสถานะคำสั่งซื้อได้ตลาดเวลา

4.เลือกใช้บริการ E-Commerce Fulfillment

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดใน 3 ข้อข้างต้น เป็นสิ่งที่คุณต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการด้วยตนเอง อย่างเช่นการบริหารคน การสร้างระบบทำงานด้วยตัวเอง ที่สำคัญต้องใช้พื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจริง ๆ เรื่องนี้ ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง ในปัจจุบัน มีบริการ  E-Commerce Fulfillment ที่ดูแลเรื่องงานหลังบ้านให้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ การเก็บสินค้า การแพ็คสินค้า การส่งสินค้า มีระบบที่เชื่อมต่อ ในทุกช่องทางขาย ข้อดีของการใช้ E-Commerce Fulfillment คือ คุณสามารถ ไปใช้ชีวิตกับการท่องเที่ยว ไปคุยธุรกิจ ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องงานหลังบ้าน เพราะมีผู้ช่วยจัดการให้หมดแล้ว ทุกคำสั่งซื้อจะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ แม้แต่เวลาที่คุณนอนหลับ ก็ยังมีรายได้เข้าบริษัท ในทุก ๆ วัน